รวมเรื่องสั้นของบินหลา สันกาลาคีรี ในฉบับที่เต็มไปด้วยความคิดถึง พร้อมรูปเล่ม ลายเส้น ที่อาจทำให้ตาเบบูย่าในใจหลายคนบานอีกครั้ง
- ผู้เขียน: บินหลา สันกาลาคีรี
- สำนักพิมพ์: KOOB
- จำนวนหน้า: 326 หน้า ปกอ่อน
- พิมพ์ครั้งที่ 1 — ธันวาคม 2563
- ISBN: 9786167942681
คิดถึงทุกปี
ผมได้ยินชื่อดอกตาเบบูย่าครั้งแรกจากหนังสือ ‘คิดถึงทุกปี’ ของบินหลา สันกาลาคีรี ด้วยความเป็นเด็กที่เติบโตมากับการ์ตูน ทีวี และขนมถุง ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้จึงเล็กเสียยิ่งกว่าละอองเกสร น่าแปลก ตั้งแต่อ่านครั้งแรกในหอสมุดกลาง จุฬาฯ ชื่อดอกไม้ชนิดนี้ไม่เคยหลุดหล่นไปจากหัวของผมเลย
อาจเป็นเพราะมันปรากฏขึ้นพร้อม ‘ความทรงจำ’ ที่มาพร้อมเรื่องราวความรักของคนสามคนที่ประทับลงในใจ เรื่องสั้นนี้เขย่าความเข้าใจเกี่ยวกับความรักที่ผมสั่งสมมา เปิดพื้นที่ให้ความเป็นไปได้ของการอยู่ด้วยกันในฐานะคนรัก รวมถึงพื้นที่ของความรักแม้ไม่ได้อยู่ร่วม
หลังอ่านเรื่องสั้น ‘คิดถึงทุกปี’ จบ ทุกครั้งที่พบคู่รัก ไม่ว่าคู่ใดก็ตาม ผมมักจินตนาการถึง ‘ความคิดถึง’ ที่แต่ละคนมีให้ผู้คนอื่นนอกจากคนรักที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งจะว่าไปก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น
มนุษย์ช่างซับซ้อน—วรรณกรรมชั้นดีมักแสดงสิ่งนี้ให้เห็นและมนุษย์ก็ช่างละเอียดอ่อน—เมื่อสัมผัสถึงสิ่งนี้ในเรื่องสั้นหรือนิยาย เรามักสัมผัสถึงสิ่งเดียวกันได้ในหัวใจตัวเอง
การอ่านวรรณกรรมจึงเป็นกระบวนการที่ทำให้เราได้กลับเข้าไปสัมผัสพูดคุยกับด้านที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนของตัวเอง บ่อยครั้งที่เราเข้าใจตัวละครว่า ไม่ง่ายนักที่จะตัดสินใจในสถานการณ์บีบเค้น ในเงื่อนไขที่น่าเห็นใจ รวมถึงเข้าใจการกระทำของบางตัวละครเมื่อรู้ปูมหลังที่เขาใช้ชีวิตผ่านมา, พร้อมกันนั้นเราก็เข้าใจตัวเองมากขึ้น และบางครั้งก็สามารถให้อภัยตัวเองได้
วรรณกรรมจึงมิใช่กฎหมายหรือโจทย์คณิตศาสตร์ที่มีถูก-ผิดหรือคำตอบตายตัว หากคือกระจกส่องมนุษย์ให้เห็นว่าถึงที่สุดแล้วชีวิตมีเรื่องให้ทำความเข้าใจมากกว่าพิพากษาตัดสินใครสักคนว่าดี-ชั่ว ผิด-ถูก
วรรณกรรมชั้นดีทำให้เรามีหัวจิตหัวใจที่เปิดกว้างต่อเพื่อนมนุษย์ และตัวเอง
‘คิดถึงทุกปี’ เป็นหนึ่งเล่มที่เป็นเช่นนั้น...
ครั้งหนึ่ง ผมเคยถามพี่ต้อ-บินหลาว่า “ทำไมคนเราต้องอ่านวรรณกรรมด้วยครับ” นักเขียนร่างใหญ่ยิ้มใจดีแล้วตอบว่า “เราอาจได้เจอกับเพื่อนสองคนตอนอายุ 50 ปี คนหนึ่งเห็นแก่ตัว ไม่ให้เกียรติคนอื่น ไร้น้ำใจ อีกคนมีน้ำใจไมตรีกับเพื่อน เปิดกว้าง เป็นคนละเอียดอ่อน รักความเป็นธรรม เราอาจคิดว่าสองคนนี้แค่นิสัยไม่เหมือนกัน แต่พอลองไล่ย้อนกลับไปเรื่อยๆ เรากลับพบว่า ทางแยกของสองคนนี้เกิดขึ้นตอนวัยรุ่น คนแรกไม่อ่านหนังสือ คนที่สองหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน”หลังจากรู้จักดอกตาเบบูย่าจากเล่มนี้ หนังสือของบินหลา สันกาลาคีรี กลายเป็นทั้งเพื่อนยามเดินทาง เป็นครูของการเขียน เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียนหนังสือบ้าง
เมื่อมีโอกาสได้พบพี่ต้อ ผมรู้สึกว่านามปากกานี้ช่างเหมาะเจาะอย่างยิ่ง พี่ต้อมีความหนักแน่นมั่นคงเหมือนภูเขา ขณะเดียวกันก็โบยบินอย่างอ่อนไหว สนุก และรักอิสระ เสียงหัวเราะอร่อยในร่างที่มั่นคงดั่งภูผานั้นคือภาพจำของบินหลาสำหรับผม
นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่วันนี้สำนักพิมพ์ KOOB ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อหนังสือในดวงใจเล่มนี้ให้กับเพื่อนผู้อ่าน ในอีกด้าน ผมยังเฝ้ารอผลงานใหม่จากบินหลา สันกาลาคีรีอยู่เสมอ
ด้วยความคิดถึง
นิ้วกลม
สำนักพิมพ์ KOOB