รู้จัก UNESCO's Cities of Literature เครือข่ายเมืองแห่งวรรณกรรมสำหรับอ
top of page

รู้จัก UNESCO's Cities of Literature เครือข่ายเมืองแห่งวรรณกรรมสำหรับอนาคต

"ชีวิตแสนสั้น ศิลปะสิยืนยาว"

- ศิลป์ พีระศรี

 

๊ หลายคนน่าจะรู้จักองค์การยูเนสโก ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลรักษามรดกโลกไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ สถานที่ หรือการยกย่องบุคคลสำคัญของโลก แต่มีโครงการหนึ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก มันชื่อว่า โครงการ Cities of Literature ซึ่งเปรียบได้ดั่งโครงการที่เข้าไปอนุรักษ์ พัฒนา และสนับสนุนศิลปะวรรณกรรมตามเมืองต่าง ๆ ให้ยั่งยืน

๊ โครงการ Cities of Literature ของยูเนสโกเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (Creative Cities Network) ซึ่งเปิดตัวในปี 2004 โดยนับจนถึงปัจจุบันเครือข่าย UNESCO Cities of Literature มีทั้งสิ้นแล้ว 28 เมือง มาจาก 6 ทวีป และมีประชากรรวมกันกว่า 26 ล้านคน

๊ เครือข่ายนี้เชื่อมต่อห้องสมุดกว่า 1,250 แห่ง, เทศกาลหนังสือ 130 แห่ง และร้านหนังสือกว่า 1,200 แห่งเข้าด้วยกัน โดยเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของหนังสือและการเผยแพร่วัฒนธรรมการอ่านและการเขียน

๊ สิ่งที่คุณสามารถค้นพบภายในเมืองเหล่านี้นั้นมีมากมายทั้งหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อนุสาวรีย์นักเขียนที่สูงที่สุด หลักสูตรสอนการเขียนแห่งแรก มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และสถานีรถไฟที่มีชื่อมาจากหนังสือ ทั้งยังสามารถพบเจอกิจกรรมที่น่าสนใจจากงานหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือโรงแรมสำหรับหนอนนักอ่าน

 

๊ สำหรับเกณฑ์การพิจารณาว่าเมืองใดเข้าข่าย เมืองแห่งวรรณกรรม บ้าง องค์การยูเนสโกได้กำหนดคุณสมบัติไว้ดังนี้

  • เมืองนั้นจะต้องมีคุณภาพ ปริมาณ และความหลากหลายของหนังสือที่ตีพิมพ์มากพอ

  • มีคุณภาพและปริมาณของหลักสูตรการสอนด้านวรรณกรรมในประเทศหรือต่างประเทศ ในระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา

  • วรรณกรรม, ละคร และกวีนิพนธ์มีบทบาทสำคัญในเมือง

  • การจัดงานทางด้านวรรณกรรมหรืองานหนังสือส่งเสริมวรรณกรรมทั้งในและต่างประเทศ

  • การมีอยู่ของห้องสมุด ร้านหนังสือ และศูนย์วัฒนธรรมจากทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องรักษา ส่งเสริม และเผยแพร่วรรณกรรมทั้งในและต่างประเทศ

  • มีส่วนร่วมในการตีพิมพ์วรรณกรรมแปลจากภาษาต่างประเทศ

  • มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากสื่อแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ในการส่งเสริมวรรณกรรม และการสร้างความเข้มแข๋งของตลาดสำหรับหนังสือวรรณกรรม

๊ การกำหนดและตรวจสอบคุณสมบัติจะมีการทบทวนทุกสี่ปีโดยองค์การยูเนสโก

 

รายชื่อเมืองแห่งวรรณกรรม (Cities of Literature) ที่ผ่านมา มีดังนี้

  • เอดินบะระ , สกอตแลนด์ (2004)

  • เมลเบิร์น , รัฐวิคตอเรีย , ออสเตรเลีย (2008)

  • ไอโอวาซิตี้ , รัฐไอโอวา , สหรัฐอเมริกา (2008)

  • ดับลิน , ไอร์แลนด์ (2010)

  • เรคยาวิก , ไอซ์แลนด์ (2011) [5]

  • นอร์วิช , อังกฤษ (2012)

  • กรากุฟ , โปแลนด์ (2013)

  • ไฮเดลเบิร์ก , เยอรมนี (2014)

  • ดะนีดิน , นิวซีแลนด์ (2014) [6]

  • กรานาดา , สเปน (2014)

  • ปราก , สาธารณรัฐเช็ก (2014)

  • แบกแดด , อิรัก (2015)

  • บาร์เซโลนา , สเปน (2015)

  • ลูบลิยานา , สโลวีเนีย (2015)

  • ลวีฟ , ยูเครน (2015)

  • มอนเตวิเดโอ , อุรุกวัย (2015)

  • น็อตติงแฮม , อังกฤษ (2015)

  • ออบีดุช , โปรตุเกส (2015)

  • ตาร์ตู , เอสโตเนีย (2015)

  • อุลยานอฟสค์ , รัสเซีย (2015)

  • พูชอน, เกาหลีใต้ (2017) [7]

  • เดอร์บัน , แอฟริกาใต้ (2017) [7]

  • แฮมเมอร์ , นอร์เวย์ (2017) [7]

  • แมนเชสเตอร์ , อังกฤษ (2017) [7]

  • มิลาน , อิตาลี (2017) [7]

  • ควิเบกซิตี้ , แคนาดา (2017) [7]

  • ซีแอตเทิล , สหรัฐอเมริกา (2017) [7]

  • ยูเทรกต์ , เนเธอร์แลนด์ (2017) [7]

ที่มา: en.wikipedia.org/wiki/City_of_Literature

bottom of page