7 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Old Man's War
top of page

7 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Old Man's War


อาจกล่าวได้ว่า John Scalzi (ผู้เขียนโอลแมนวอร์ และ Lock in จิตลวงร่าง) เป็นหนึ่งในนักเขียนนิยายแนวไซไฟที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เขาทำรายได้จากการเซ็นสัญญากับสำนักพิมพ์ Tor มูลค่า 3.4 ล้านเหรียญจากหนังสือ 13 เล่มในปี 2015 และถูกวางตัวสำหรับการเป้นนักเขียนในทศวรรษหน้าเป็นที่เรียบร้อย

และเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่เอ่ยถึงผลงานสร้างชื่อเล่มแรกของเขาอย่าง Old Man's War สงครามของชายชรา ซึ่งผมได้ค้นพบข้อเท็จจริง 7 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้

1. มันเกิดขึ้นได้เพราะเขาถูกเลิกจ้าง

ก่อนหน้าที่ John Scalzi จะเริ่มเขียนนิยาย เขาเคยทำงานเป็นบรรณาธิการและนักเขียนให้แก่ American Online มาก่อน แต่แล้วเขาก็ถูกเลิกจ้างกลางอากาศ ทำให้เขาต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานใหม่ให้เข้ากับความถนัดของตน ซึ่งทำให้ Scalzi ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับการเป็นบล็อกเกอร์ลงเว็บ New Coke เขาลงนิยายในนั้น ก่อนที่บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Tor Books จะมาเจอ แล้วนำมาตีพิมพ์ ส่งเข้าชิงรางวัลฮิวโก้อวอร์ดในที่สุด

2. มันมีอะไรที่มากกว่านวนิยาย

ในหนังสือชุด Old Man's War นั้นมีเส้นเรื่องหลักทั้งหมด 4 เล่ม ซึ่งได้แก่ Old Man’s War (ซึ่งเป็นเล่มแรกที่มีการแปลไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว), The Ghost Brigades, The Last Colony, และ Zoe’s Tale นอกจากนี้ยังมีอีกสองเล่มที่เป็นภาคแยกออกมาคือ The Human Division และ The End of All Things

ยังไม่หมด Scalzi ยังได้แต่งเรื่องสั้นไว้อีกสามเรื่องที่จะมาเพิ่มความลึกและเสริมเนื้อเรื่องหลัก ได้แก่ Questions for a Soldier, The Sagan Diary และ After the Coup การขยายจักรวาลของเขานี่ไม่ต่างอะไรกับสตาร์วอร์สเลยล่ะ

3. อุทิศแด่ Starship Troopers

หากจะพูดถึงแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายเรื่องนี้ นิยายไซไฟเรื่องดังของ Robert A. Heinlein อย่าง "Starship Troopers" มีอิทธิพลพอสมควรใน Old Man's War ยกตัวอย่างเช่น จุดเริ่มต้นการที่ปู่เพอร์รี่โดนชักจูงให้เข้าร่วมกองทัพเพื่อต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาวที่เราอ้างว่าไร้มนุษยธรรม (ใน Starship Trooper พระเอกจะได้รับสัญชาติความเป็นพลเมืองหากร่วมกองทัพ ซึ่งใน Old Man's War ปู่เพอร์รี่ก็จะได้รับชีวิต "ใหม่" หากร่วมกองทัพ)

4. ซีรี่ย์นี้ัเต็มไปด้วยการอ้างอิง

ในนิยายจะมีการอ้างอิงในเรื่องชื่อตัวละคร สปีชี่ส์สายพันธุ์ หรืออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ จากนักเขียนหรือหนังสือเล่มอื่น อาทิ ชื่อ Gaiman ในเล่มแรก, Gamerans ชื่อ Stross และ Martin ใน The Ghost Brigade (สงครามชายชราเล่มสอง) หรือการเรียกเอเลี่ยนว่า Finwe รวมถึงชื่อโปรแกรมที่รู้จักในนาม Blue Pill ด้วยก็ตาม

5. หนังสือเล่มสุดท้ายถูกเขียนขึ้นมาเพื่อแก้พล็อต

สำหรับใครที่ยังไม่อ่าน (เพราะมันยังไม่แปลไทย) ในหนังสือเล่มที่สี่ของชุดสงครามชายชรา เล่ม "Zoe’s Tale" ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อแก้ไขพล็อตบางอย่างที่เป็นปัญหาจาก "The Last Colony (เล่มสาม)" และเหตุการณ์บางประการที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการอธิบายเอาไว้

6. หนังสือเล่มนี้เคยออกทีวีด้วยนะ

มันยังไม่ได้ถูกสร้างเป้นภาพยนตร์หรอกครับ แต่ในช่วงตอนหนึ่งของซีรี่ย์เรื่อง Stargate Universe ได้มีการปรากฏตัวละครถือ Old Man's War ไว้ในมือด้วยล่ะ

ึ7. มันจะได้รับการพัฒนาสู่จอภาพยนตร์แน่นอน

ด้วยความประสบความสำเร็จของ Old Man's War เป็นไปไม่ได้เลยว่า ค่ายหนังจะไม่สนใจหยิบนิยายเรื่องนี้มาทำซีรี่ย์ ซึ่งมันได้มีการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ไปทำมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว แต่อาจจะเป็นการสร้างพล็อตใหม่จากองค์ประกอบบางอย่างของ Old Man's War (ขยายจักรวาลไปอีก)

John Scalzi ได้ประกาศแล้วว่า ตอนนี้เขามีสคริปต์ของเนื้อหาแล้ว แต่ยังต้องนำไปปรับแก้อีก ซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อใด

ที่มา: https://www.barnesandnoble.com/blog/sci-fi-fantasy/7-things-you-might-not-know-about-john-scalzis-old-mans-war/

แท็ก:

bottom of page