[Review] เชอร์ล็อก โฮล์ม ตอน แรงพยาบาท - จุดเริ่มต้นของศาสตร์แห่งการอนุมาน
top of page

[Review] เชอร์ล็อก โฮล์ม ตอน แรงพยาบาท - จุดเริ่มต้นของศาสตร์แห่งการอนุมาน


ผมเพิ่งได้มีโอกาสอ่านเชอร์ล็อก โฮล์ม วรรณกรรมรหัสคดีอมตะตลอดกาลของเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยผมเลือกอ่านจากฉบับแปลของอาจารย์สายสุวรรณ ตีพิมพ์โดย แพรวสำนักพิมพ์ (เครืออมรินทร์)

โดยส่วนตัว อาจารย์สายสุวรรณนั้นเป็นนักเขียนนักแปลที่มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และจากการได้พิสูจน์ผ่านงานเขียนเล่มนี้ ผมค้นพบว่า คลังคำของอาจารย์นั้นเยอะมาก และมีลูกเล่มที่แพรวพราว

ถึงกระนั้น ผมก็ค่อนข้างต้องใช้เวลาปรับตัวต่อสำนวนการเขียนของอาจารย์อยู่พอสมควร เพราะค่อนข้างจะเป็นภาษาแบบเก่า ซึ่งเข้ากับยุคสมัยของเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันผมก็พบว่า ด้วยพื้นเพของเรื่องที่เป็นยุโรปตะวันตก ในขณะที่คำบรรยายมีความเป็นไทยและพุทธอยู่มาก จึงทำให้อ่านไปขัดหูขัดตาบ้างเป็นบางครั้ง

แต่ถึงผมจะว่าอย่างนั้น ในภาพรวมแล้ว มันก็สนุกและลิ้มรสได้ถึงแก่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

ความเป็นมา

เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ตอน แรงพยาบาล เป็นหนังสือเล่มแรกของหนังสือชุดนี้ โดยเรื่องเนื้อหาเริ่มต้นเป็นการพบและรู้จักกันเป็นครั้งแรกของ "โฮล์มส์" และ "หมอวัตสัน" ตัวเอกของเรื่อง เมื่อหมอวัตสันได้พบว่าโฮล์มส์เป็นนักสืบที่ปรึกษา ทำงานร่วมกับตำรวจนักสืบเพื่อช่วยงานราชการ และขณะเดียวกันก็รับจ้างบุคคลอื่นๆ สืบสวนเรื่องต่างๆ ด้วย

ทั้งสองร่วมสืบคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับศพของชายคนหนึ่งซึ่งถูกค้นพบในบ้างร้าง โดยมีคำว่า "RACHE" เขียนด้วยเลือดบนกำแพงข้างศพ นอกจากนี้ ภายในเล่มยังมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประวัติของพวก "มอร์มอน" หรือ "สิทธิชนยุคสุดท้าย" อยู่อย่างสำคัญ ซึ่งขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านตามสมควร เนื่องจากเป็นเรื่องแต่งที่อาจมีอคติของผู้เขียนปะปนอยู่มาก อันอาจทำให้บางช่วงตอนผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงได้

 

จุดเริ่มต้นของศาสตร์แห่งการอนุมาน

ความน่าสนใจของเชอร์ล็อก โฮล์มนั้นไม่ได้อยู่ที่การดำเนินเรื่องที่หวือหวาหรือลุ้นระทึก (อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของผม) แต่เป็นการวางโครงเรื่องรูปคดีที่มีที่มาที่ไปและเป็นลำดับจังหวะเหมือนบรรทัดห้าเส้นที่ใช้อ้างอิงความเป็นไปของเรื่อง

ความสนุกทั้งหมดทั้งมวลนั้นตกมาอยู่ที่อุปนิสัยส่วนตัวของตัวละครเอกที่ชื่อ เชอร์ล็อก โฮล์ม ล้วนๆ ด้วยความรู้และทักษะของเขาที่หมอวัตสันได้อธิบายไว้ว่า

  1. ความรู้ด้านวรรณกรรม — น้อยมาก

  2. ความรู้ด้านปรัชญา — ไม่มี

  3. ความรู้ทางดาราศาสตร์ — ไม่มี

  4. ความรู้ด้านการเมือง — น้อยมาก

  5. ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ — ไม่แน่นอน ชำนาญพิเศษด้านพืชมีพิษและฝิ่น แต่ไม่รู้ด้านการทำสวน

  6. ความรู้ด้านธรณีวิทยา — ชำนาญ แต่มีข้อจำกัด สามารถบอกความแตกต่างระหว่างดินแต่ละชนิด เช่นหลังจากออกไปเดินเล่น สามารถระบุตำแหน่งที่ได้รับรอยเปื้อนดินบนกางเกงได้ว่ามาจากส่วนไหนของลอนดอน โดยดูจากสีและลักษณะของดิน

  7. ความรู้ด้านเคมี — ยอดเยี่ยม เชอร์ล็อก โฮมส์เป็นตัวละครที่ได้รับตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์จากสมาคมเคมีแห่งราชสำนักอังกฤษ

  8. ความรู้ด้านกายวิภาค — แม่นยำ แต่ไม่เป็นระบบ สันนิษฐานได้ว่ามาจากการศึกษาด้วยตนเอง[8]

  9. ความรู้ด้านอาชญวิทยา — กว้างขวาง ดูเหมือนจะรู้จักเหตุสะเทือนขวัญอย่างละเอียดทุกเรื่องในรอบศตวรรษ[6]

  10. ความรู้ด้านดนตรี — เล่นไวโอลินได้ดีมาก และยังเป็นเจ้าของไวโอลินสตราดิวาเรียส อันมีชื่อเสียง[9]

  11. เป็นนักมวยและนักดาบ

  12. มีความรู้กฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี

อันเป็นที่มาของศาสตร์ที่น่าสนใจที่เรียกว่า "ศาสตร์แห่งการอนุมาน" ด้วยการสังเกตและแส่รู้ไปซะทุกเรื่องของทุกผู้ทุกคนราวกับเป็นนอสตาดามุสกลับชาติมาเกิดนี้เอง ได้สร้างความเพลิดเพลินแก่การอ่านวรรณกรรมสืบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่จนจบอย่างไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว

 

การดำเนินเรื่องถูกแบ่งออกเป็น 2 บรรพคึอ

บรรพ 1 : ตีพิมพ์จากบันทึกความทรงจำของนายแพทย์จอห์น เอช. วัตสัน อดีตสังกัดกรมแพทย์ทหารบก

1. มิสเตอร์เชอร์ล็อก โฮล์มส์ 2. ศาสตร์แห่งการอนุมาน 3. ความลึกลับที่ลอริสตันการ์เดนส์ 4. คำบอกเล่าของจอห์น รานซ์ 5. แจ้งความของเรานำแขกมา ฯลฯ

บรรพ 2 : ถิ่นฐานของนิกายใหม่ เป็นการอธิบายบรรยายเรื่องราวถึงที่มา ต้นตอและสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง ได้แก่

1. บนที่ราบดินด่างมหึมา 2. ดอกไม้ยูทาห์ 3. จอห์น เฟอร์เรียร์ พูดกับศาสดา 4. หนีเอาชีวิตรอด 5. เทวทูตพยาบาท ฯลฯ

ซึ่ง ณ ตอนแรก ผมรู้สึกงุนงงไปบ้างที่มีการตัดฉากเหตุการณ์มาที่ฉากชายวัยกลางคนกับเด็กหญิงผู้เดินหลงทางในอเมริกา หลังจากจับผู้ร้ายได้ แต่พอประกอบกับภาพรวมตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็พบว่าเนื้อหาช่วงที่น่างงงวยนี้สอดรับกับเนื้อหาในบรรพ 1 อย่างลงตัวเลยทีเดียว

ด้วยเหตุทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงสมควรอย่างยิ่งที่หนังสือเล่มนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการอ่านวรรณกรรมรหัสคดีสำหรับผู้ที่เพิ่มเริ่มฝักใฝ่ในศาสตร์แห่งความลึกลับด้วยประการทั้งปวง

bottom of page