รู้จักในหลวง ร.๙ ผ่านชายสามคน "มหาชนก นายอินทร์ และติโต"
top of page

รู้จักในหลวง ร.๙ ผ่านชายสามคน "มหาชนก นายอินทร์ และติโต"

มหาชนก คือ ชาติที่ 2 ในทศชาติชาดกก่อนจะเสวยชาติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเชื่อว่า "พระมหาชนก" บำเพ็จวิริยะบารมี

นายอินทร์ หรือ INTREPID คือรหัสประจำตัวของหัวหน้าสายลับเครือข่ายจารกรรมของอังกฤษในช่วงสงครมโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นหน่วยที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านฮิตเลอร์และสู้กับประเทศเยอรมนีในขณะนั้น

ติโต คือ ชื่อสมญานามของอดีตรัฐบุรุษและประธนานาธิบดีของประเทศยูโกสลาเวีย

ทั้งสามคนนี้คือ ผู้ที่ปรากฏในพระราชนิพนธ์แปลทั้งสามเรื่องของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยพระองค์ทรงมีพระประสงค์ในด้านการพัฒนามนุษย์ การพัฒนาภูมิปัญญาผ่านวรรณกรรมของพระองค์

 

ผู้เพียรพยายาม วิริยะ อุตสาหะ

พระมหาชนก เป็นชาติที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญวิริยะบารมี ดังจะเห็นได้จากความไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เมื่อครั้งเรือสำเภาล่ม แม้จะต้องว่ายน้ำลอยคอกลางทะเลที่แสนสิ้นหวังถึง 7 วัน 7 คืน แต่สุดท้ายพระองค์ก็สำฤทธิ์ความพยายาม เมื่อมีนางมณีเมขลามาช่วยพาขึ้นฝั่ง

ถึงแม้ว่าความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีนางฟ้าหรือเทวดามาช่วยเราอยู่บ่อยๆ (คือ เหตุบังเอิญที่ทำให้เราได้รับความช่วงเหลือ หรือโอกาสที่มีผู้มอบมาให้) แต่เรื่องราวชีวิตของพระมหาชนกก็ทำให้เห็นถึงข้อเท็จจริงของคำว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

สิ่งนี้เราสามารถมองเห็นได้จากตัวของพระองค์เอง ที่มีพระประสงค์ที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนทุกระดับ ทรงเพียรที่จะเข้าไปยังพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อให้คนที่อยู่ห่างไกลได้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น

ดังคำพูดที่พระมหาชนกพูดกับนางมณีเมขลาท่อนนึงว่า

พระราชนิพนธ์แปลสามเรื่อง

StartFragment"ดูก่อนเทวดา ผู้ใดรู้แจ้งว่าการงานที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้จริง ชื่อว่าไม่รักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นละความเพียรในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ผลแห่งความเกียจคร้าน”

หนังสือพระชานิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก พระองค์ทรงประพันธ์แปลจากมหาชนกชาดกในพระไตรปิดฎเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำนวนแบบอังกฤษยุคกลาง (เหมือนที่ J.R,R, Tolkien ใช้ใน The Lord of The Ring) มีภาพประกอบโดยจิตรกรชื่อดังในประเทศ 10 คน (เช่น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์) รวมทั้งหมด 37 ภาพ

รวมถึงมีภาพนางมณีเมขลาพยากรณ์อากาศเป็นภาพฝีพระหัตถ์จากคอมพิวเตอร์ของพระองค์อีกด้วย

หนังสือเล่มนี้มีการเผยแพร่ทั้งเป็นฉบับภาษาอังกฤษและภาษาไทย รวมถึงฉบับการ์ตูนก็มีการทำเผยแพร่เพื่อให้เข้าถึงเยาวชน จัดจำหน่ายและพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์ เมื่อปี 2542

 

ผู้เสียสละ

นายอินทร์ จากหนังสือพระราชนิพนธ์ "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ"

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงแปลมาจากเรื่อง “A Man Called Intrepid” โดย William Stevenson ซึ่งกล่าวถึงชีวิตของจารชนในอังกฤษยุคสงครามโลก ด้วยเหตุทุกคนรู้ว่าสงครามนั้นชนะและแพ้ เริ่มและยุติ เพราะจารชนคอยทำงาน ต่อสู้เพื่อชาติทุกทางเพื่อให้มีชัยเหนือกองทัพนาซีและฮตเลอร์ผู้บ้าคลั่ง มีจารชนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตในหน้าทีเพื่อให้ชนะสงคราม และถึงแม้แผนการจะสำเร็จ หรือชาติบ้านเกิดจะชนะสงคราม แต่ชื่อของเหล่าจารชนเหล่านั้นหาได้ถูกประกาศให้ทราบไม่ รวมถึงวีรกรรมการเสียสละเพื่อชาติของพวกเขายังไม่ถูกกล่าวถึงเสียด้วยซ้ำ

พระองค์จึงสรุปวิถีชีวิตของจารชนเหล่านี้ด้วยความว่า "ผู้ปิดทองหลังพระ" ได้อย่างลงตัว และมันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ว่า เครือข่ายสายลับที่อยู่ในอังกฤษ, New York, Canada, Bermuda, Trinidad, Jamaica และอีกหลายแห่งในโลก สายลับหลายแสนคน ส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรับรู้ถึงวีรกรรม และจำนวนหลายหมื่นคนตายไป โดยไม่มีใครสดุดีอย่างเป็นทางการ

ชื่อ "นายอินทร์" จริงๆ แล้วเป็นชื่อที่พระองค์ทรงแปลงมาจากต้นฉบับที่ชื่อว่า INTREPID อันเป็นชื่อหัวหน้าจารชนของอังกฤษ และที่พระองค์ทรงเลือกแปลหนังสือเรื่องนี้นั้นดูได้จากคำแปลท่อนหนึ่งที่อธิบายถึงคุณสมบัติของสายลับว่า

พระราชนิพนธ์แปลสามเรื่อง

StartFragment“บุคคลที่เหมาะสมจะต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างพร้อมกัน จะต้องมีทั้งความซื่อสัตย์สุจริตและความรอบคอบสุขุม ทั้งความเมตตาและความมุ่งมั่น. เขาจะต้องละสังคมที่มั่งคั่งและฟุ่มเฟือย เข้าสู่สังคมที่ต้องประหยัดกระเบียดกระเสียรและถูกความหายนะคุกคาม เขาจะต้องอดทนต่ออารมณ์ที่เคร่งเครียดและผลุนผลันของคนที่ตรากตรำเพราะภัยสงคราม”EndFragment

เป็นความนัยที่พระองค์ทรงบอกแก่ข้าราชบริพารทั้งหลายถึงคุณลักษณะของคนที่พระองค์ทรงชื่นชมและอยากให้มามีส่วนในการรับใช้ประเทศชาติ ปกครองบ้านเมือง

 

ผู้นำ ผู้มุมานะ

ติโต หรือ ยอซีป บรอซ รัฐบุรุษและอดีตประธานาธิบดีประเทศยูโกสลาเวีย ผู้ที่พระองค์ทรงเรียกว่า "ทหารลูกทุ่ง" เพราะติโตนั้นเติมโตมาจากครอบครัวชาวนา และมาเป็นเด็กช่างกล ก่อนจะแอบมาเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรค

ติโตนั้นสามารถกู้ชาติและรวบรวมประเทศยูโกสลาเวียให้เป็นปึกแผ่นจากความแตกแยกสมัยสงครามได้สำเร็จ และแม้แต่ฮิตเลอร์ก็ยังต้องปล่อยให้เป็นชัยชนะของเขา

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคอมมิวนิสต์ขนาดแท้ และเป็นผู้นำ ทั้งๆ ที่ยูโกสลาเวียสมัยสงครามโลกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ และเป็นปรปักษ์อย่างรุนแรงต่อรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรเดิม ซึ่งมีนโยบายให้เซอร์เบียเป็นศูนย์กลางประเทศ

ถึงกระนั้นเขาก็เป็นคอมมิวนิสต์ที่น่าสนใจคนหนึ่ง กล่าวคือ เขาเป็นผู้นิยมอุดมการณ์คอมมิวนิสต์แบบอิสระ ไม่ยอมอยู่ใต้สหภาพโซเวียต อิสระทางความคิด ไม่รับระบบนารวม ติโตมุมานะนึกถึงประชาชนผู้ยากไร้และความเป็นชาติเป็นเป้าหมายใหญ่

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงยกติโตขึ้นมาเป็นตัวอย่างการเป็นนักปกครองที่ดีให้แก่ข้าราชบริพาร ถึงเรื่องของความมุมานะ และการขวนขวายศึกษาอย่างต่อเนื่อง

ติโตเคยกล่าวว่า "การดำเนินการศึกษาอย่างไม่หยุดยั้ง นี้ มีความสำคัญมาก" สิ่งนี้นั้นนำมาซ้ำความสมบูรณ์ ความเจริญ แบะการพัฒนาศักยภาพอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงแม้ว่าหลังจากติโตเสียชีวิต ความสมบูรณ์ของประเทศยูโกสลาเวียจะค่อยๆ สลายจนกระทั่งมีสภาพแตกแยกอันยากที่จะแก้ไขดังที่ได้เห็นในปัจจุบัน

ติโตคือคนดีของโลกอีกคนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรด และแนะนำให้เป็นหนังสือนอกเวลาเรียนสำหรับเยาวชนอีกด้วย

bottom of page