ในวงการบันเทิงจะมีสถานะนึงที่ถูกขนานนามว่า EGOT ซึ่งเปรียบได้ดั่งสถานะ "พระเจ้า" ของโลกมายา มันเป็นการกล่าวถึงคนที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ทั้งสี่ของวงการบันเทิงได้ E - Emmy Award รางวัลจอแก้ว ฝั่งโทรทัศน์ G - Grammy Award รางวัลโลกดนตรี O - Oscar รางวัลโลกภาพยนตร์ T - Tony Award รางวัลฝั่งบรอดเวย์ ละครเวที . ซึ่ง จิมมี่ แฟลลอน--พิธีกรนักแสดงตลกชาวอเมริกัน เคยหยอกล้อ โคบี้ ไบรอันต์ ในรายการ The Tonight Show Starring ไว้ว่า เขาอาจจะกลายเป็นนักกีฬาคนแรกที่ก้าวสู่สถานะ EGOT ก็เป็นได้นะ . . หลายคนคงรู้จักโคบี้ในฐานะตำนานนักบาสเก็ตบอลของทีมแอลเอ เลเกอร์ส เจ้าของแหวนแชมป์ NBA 5 สมัย ถ้าจะหาใครที่เทียบชั้นไมเคิล จอร์แดนมากที่สุด ก็คงเป็นโคบี้นี่แหละ . แต่อีกมุมหนึ่งที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ โคบี้มีพรสวรรค์ในการเป็น "นักเล่าเรื่อง (Storyteller)"
โคบี้ ไบรอันต์เลิกเล่นบาสเกตบอลอาชีพในปี 2016 และสิ่งแรกที่เขาทำก็คือ เขียนบทความชื่อ Dear Basketball ลงบนเว็บไซต์ The Player's Tribune . มันเปรียบเสมือนจดหมายเกษียณอายุที่บอกเล่าถึงความทรงจำ หยาดเหยื่อ ความฝันในฐานะนักบาสเกตบอลของโคบี้ในวัยหนุ่ม . แต่แล้ว เกล็น คีน ผู้กำกับอนิเมชั่นชื่อดัง ดันมาเห็นแล้วตัดสินขอนำเรื่องราวของโคบี้มาเรียงร้อยเป็นอนิเมชั่นขนาดสั้น ด้วยเทคนิค Stop motion ผ่านการวาดด้วยแท่งแกรไฟต์ ถ่ายรูปด้วย Iphone ความยาวเพียง 5 นาที . ด้วยความยอดเยี่ยมของเนื้อเรื่อง Dear Basketball ส่งผลให้โคบี้ ไบรอันต์ กลายเป็นนักบาสเกตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับรางวัล Oscar สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม และได้รับรางวัล Sport Emmy Award สาขากราฟฟิคหลังโพสต์โปรดักชั่นยอดเยี่ยม . ถ้านับรวมรางวัลที่สองด้วย ตอนนี้ โคบี้ ก็ถือได้ว่าคว้ามาสองรางวัลแล้ว คือตัว O และ E . . ------------------------ [นักอ่านตัวยง นักจินตนาการตัวพ่อ]
สิ่งที่โคบี้ ไบรอันต์ชื่นชอบมีอยู่สองอย่าง 1. บาสเกตบอล 2. การเล่าเรื่องในจินตนาการ . โคบี้เป็นนักอ่านตัวยงคนหนึ่ง เขาชื่นชอบนิยายวรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซีมาก โดยเฉพาะแฮร์รี่ พอตเตอร์ และเขาเชื่อมั่นว่า หนังสือคือสิ่งที่จะสามารถส่งมอบ แรงบันดาลใจให้ใครต่อใครได้มากที่สุด . โคบี้เคยให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทม์ไว้ว่า
"วิธีการสอนที่ดีที่สุด ไม่ใช่การจงใจสอนใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการแบ่งปันเรื่องราว" . . แน่นอนว่าตัวของโคบี้เองก็เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับเด็กทั่วโลกอยากเป็นนักบาสเกตบอลอยู่แล้ว แต่เขาคิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น . ในเดือนมีนาคม ปี 2019 โคบี้ได้ไปเป็นโค้ชให้กับทีมแมมบ้า ทีมบาสเกตบอลของลูกสาว การแข่งบาสเกตบอลในสหรัฐฯ นั้นดุเดือนมาก และถ้าคุณต้องการจะเป็นผู้ชนะ คุณก็ต้องฝึกซ้อมมากกว่าใคร และอาจทำให้เด็กหดหู่กับชีวิตวัยเรียน . แต่การซ้อมก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนุก ดังนี้นเขาจึงต้องการฝึกนำความสุขคืนมาแก่นักกีฬาเยาวชนทุกคน และเขาเลยเลือกที่จะเขียนนิยายเรื่องหนึ่งขึ้นมา .
หนังสือนิยายเล่มนี้โคบี้รับหน้าที่จินตนาการสร้างโลก โดยรทำงานร่วมกับนักเขียนอีกคนที่ชื่อ เวสลีย์ คิง นิยายเรื่องนั้นมีชื่อว่า The Wizenard Series โดยมีลักษณะเหมือนการใส่โลกของกีฬา ลงไปในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ . "ถ้าเด็กไม่รู้จักความสนุกสนาน พวกเขาก็จะไม่สามารถจินตนาการได้ นั่นคือสิ่งที่เราหวังเอาไว้กับนิยายแนวใหม่ "แฟนตาซีกีฬา" โดยทำให้การเล่นกีฬาสนุกมากขึ้น" . Wizenard Series เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับทีมบาสเกตบอลโรงเรียนทีมหนึ่งในชุมชนเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ และนักกีฬาทุกคนก็ยอมรับในความอ่อนแอของตัวเอง
จนวันหนึ่ง ทีมบาสเกตบอลของพวกเขาได้โค้ชคนใหม่มา ที่ชื่อว่า โรลาบิ วิซเซนนาร์ด ซึ่งโค้ชคนนี้เหมือนจะมีวิธีการฝึกฝนด้วยเวทมนตร์อะไรบางอย่าง และทำให้ทุกคนในทีมเริ่มเติบโตทีละน้อย . หนังสือชุดนี้มี 5 เล่ม บอกเล่าผ่านมุมมองนักบาสเก็ตบอลแต่ละคนที่เผชิญอุปสรรคในแบบของตัวเอง โดยเล่มแรกเล่าผ่านผู้เลขคนที่ 6 ในทีมที่ชื่อ เรจจี้ . . สิ่งที่ "โคบี้ ไบรอันต์" ตั้งใจจะบอกกับทุกคนก็คือ "การเอาชนะความกลัว" ซึ่งเขาเคยพูดถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า . "มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะมอบทิศทางบางอย่างหรือท้าทายพวกเขา ด้วยวิธีจัดการทางอารมณ์ภายในของพวกเขาหรือความรู้สึกที่พวกเขากำลังมี ทั้งความกลัว, ความกังวล, ความเจ็บปวด, ความโศกเศร้า, วิตกกังวล
"มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำทางให้พวกเขาเติบโตขึ้น เพราะพวกเขาจะกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวได้ดีกว่า เมื่อมันออกมาจากหนังสือ"
"การโตเป็นผู้ใหญ่ล้วนต้องมีบาดแผล บางครั้งสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้น่ากลัวเพราะมันน่ากลัวจริงๆ แต่เราคิดไปเองต่างหากว่ามันน่ากลัว การกล้าเผชิญหน้ากับมัน และก้าวข้ามผ่านมันไปได้ คือสิ่งที่พวกเขาจะต้องเผชิญ" . . โคบี้ได้กล่าวถึงเทกซ์ วินเทอร์ โค้ชบาสเกตบอลของเขา และเขาโชคดีที่มีโค้ชที่คอยสอนด้านกีฬาและชีวิต โค้ช Rolabi Wizenard ในนิยายเรื่องนี้ก็เหมือนการที่ ลุค สกายวอคเกอร์ มีอาจารย์โยดา หรือเป็น "แมรี่ ป๊อปปินส์" ที่มาดูแลเด็กตระกูลแบงก์ . หนังสือ Wizenard Series มีห้าเล่ม และแต่ละเล่มก็สอนบทเรียนแตกต่างกันไป ตั้งแต่การมองตัวเองจากภายใน, รับรู้สิ่งที่ตัวเองเป็น และการยอมรับตนเอง เมื่อเราเข้าใจตัวเองแล้ว เราก็พร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม และแบ่งปันให้กับคนอื่น สร้างความเป็นทีมเวิร์ก . นั่นคือสิ่งที่โคบี้อยากบอกกับเรา . ------------------------ น่าเสียดายที่โคบี้ ไบรอันต์มีเหตุต้องจากไปอย่างไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ทั้งที่เขาวางแผนที่จะดัดแปลง Wizenard เป็นละครบรอดเวย์แล้วด้วยซ้ำ . ถึงแม้ท้ายที่สุดแล้ว โคบี้จะไม่สามารถกลายเป็น EGOT ได้ แต่แค่นี้เขาก็เปรียบดั่งพระเจ้าสำหรับพวกเราอยู่แล้ว