ชิโนคาวะ ชิโอริโกะ เจ้าของร้านหนังสือบิเบลียกลับมาทำงานที่ร้านได้อีกครั้ง เล่มนี้ยังคงความน่าสนใจเกี่ยวกับการไขปริศนาที่มีหนังสือเป็นแกนกลาง. เนื้อเรื่องได้มี การเปิดเผย ปมประเด็นเกี่ยวกับประวัติตัวละครเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณชิโอริโกะกับคุณแม่ที่หนีออกจากบ้านไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
คราวนี้ ร้านหนังสือได้เริ่มมีการเดินทางออกนอกร้านไปบ้านของลูกค้าเพื่อตรวจสอบราคาหนังสือ ทำให้พบลูกค้าที่มีพฤติกรรมและอดีตที่น่าสนใจ ทั้งลูกค้าที่เอาหนังสือมาวางทิ้งไว้แล้วหายตัวไป การปรากฏตัวของแฟนเก่าของไดสึเกะเป็นต้น
เล่มนี้อาจจะเรียกได้ว่า การย้อนรำลึกถึงอดีตอันผ่านพ้น วันเวลาที่เต็มไปด้วยปัญหาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้อีกแล้ว
โดยเล่มนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหนังสือดังนี้
ปฐมบท : ซาคางุจิ มิจิโยะ บันทึกคุระคุระ (สำนักพิมพ์บุงเกซุนจู)
ตอนที่ 1 : เเอนโทนี เบอร์เจสส์ A Clockwork Orange (สำนักพิมพ์ฮายาคาวะบุงโกะ NV)
ตอนที่ 2 : ฟุคุดะ เทอิจิ คำคมความเรียง มนุษย์เงินเดือน (สำนักพิมพ์โรคุกัตซึฉะ)
ตอนที่ 3 : อาชิซึกะ ฟุจิโอะ Utopia สงครามโลกครั้งสุดท้าย (สำนักพิมพ์ซึรุโชโบ)
ปัจฉิมบท : ซาคางุจิ มิจิโยะ บันทึกคุระคุระ (สำนักพิมพ์บุงเกชุนจู)
เชอร์ล็อค โฮล์ม แห่งโลกหนังสือ
สิ่งที่เด็ดที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ (ตามมุมมองที่ผมชอบ) การตามหาบ้านลูกค้าจากลักษณะของหนังสือเพียงเท่านั้น นั่นทำให้คุณชิโอริโกะในความคิดผมแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรไปกับ เชอร์ล็อค โฮล์มแห่งโลกหนังสือ แต่โดยรวมแล้วยังคงถ่ายทอดเรื่องราวได้เข้มข้นล้ำลึกในเรื่องหนังสือเช่นเดิม ความจริงอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ผมอดคิดไม่ได้ตลอดการอ่านบิเบลียก็คือ "มันจะมีคนแบบนี้อยู่จริงไหม" คนที่รอบรู้เรื่องหนังสือทุกเรื่อง...อันนี้อาจจะมี แต่คนที่รู้ประวัติทั้งตัวนักเขียน ทั้งสำนักพิมพ์อย่างชัดแจ้ง แม้จะย้อนเวลาไปกว่าครึ่งศตวรรษ ราวกับนี่เป็นรายการแฟนพันธุ์แท้ ตอน หนังสือ ก็ไม่ปาน
เพราะไม่ใช่กับตัวนักเขียนหรือกับสำนักพิมพ์เดียว แต่เป็นทุก ๆ เล่มที่เคยอ่าน ลองนึกสภาพการที่จำประวัติของหนังสือทั้งร้อยเล่มที่อ่านได้สิว่า เขียนเมื่อไหร่ ปีไหน พิมพ์แรกกับสำนักพิมพ์อะไร
เส้นเรื่องยังคงบาลานซ์ระหว่างเหตุการณ์หลักและเหตุการณ์ย่อยได้ดี ความจริงแล้วต้องพูดว่า เหตุการณ์ย่อยในแต่ละตอนของบิเบลียนั้น ส่งผลต่อเส้นเรื่องในตตอนต่อ ๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง และส่งต่อไปยังเล่มต่อไปด้วย แต่อย่างที่บอก หนังสือเล่มนี้อาจไม่ใช่หนังสือสำหรับทุกคน เพราะต้องชอบเรื่องราวของหนังสือและหน้ากระดาษในระดับนึงล่ะ ถึงจะสนุกกับการอ่านหนังสือเล่มนี้
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา สุดท้ายแล้วมันก็คือเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้ และเป็นการดึงมาใช้ได้ถูกจุด
มันคือเสน่ห์ของร้านหนังสือเก่า หนังสือมือสอง ที่มักมีเรื่องราวบางอย่างมากกว่าที่อยู่ในหนังสือ อย่างที่มันควรจะเป็น