ต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นติ่งปิแอร์โดเมนิโค บักคาลาริโอ ตามอ่านมาตั้งแต่เรื่อง เซนจูรี่ และยูลิสซิส มัวร์
ร้านเวทมนตร์แบตติบาเลโนดึงดูดความสนใจของผมตั้งแต่หน้าปก (ที่มีดีไซน์เดียวกันกับยูลิสซิส มัวร์) รวมถึงรูปเล่มข้างในที่ได้นักวาดภาพประกอบคนเดิมอย่าง ยาโคโป บรูโน มาวาดให้ (ก็วาดตั้งแต่ยูลิสซิส มัวร์เหมือนกันนั่นแหละ)
ถ้าใครที่อ่านยูลิสซิส มัวร์ แล้วชอบ เรื่องนี้จะมีบรรยากาศที่ใกล้เคียงกัน ถ้ายูลิสซิส มัวร์คือการผจญภัยข้ามมิติไปยังดินแดนต่าง ๆ ทั่วมุมโลก แบตติบาเลโนก็คือการผจญภัยด้วยสิ่งของที่สร้างเรื่อง
ถึงแม้ชื่อหนังสือจะชื่อว่า ร้านเวทมนตร์... แต่พื้นเพของเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องเวทมนตร์ ความจริงแล้วแทบไม่มีเรื่องของเวทมนตร์อย่างการเสกคาถาใด ๆ เลยด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้ดำรงอยู่ในเรื่องธรรมดาบนผืนแผ่นดินสกอตแลนด์เท่านั้นเอง เพียงแต่ว่ามีวัตถุเวทมนตร์ ของวิเศษต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งผู้ใช้ก็เป็นเพียงคนธรรมดา
และจุดนี้นั่นเองที่คือความน่าสนใจของเรื่องนี้ คนธรรมดากับสิ่งของที่ไม่ธรรมดา
ร้านเวทมนตร์แบตติบาเลโนเป็นร้านค้าขายของวิเศษ วัตถุเวทมนตร์ อาทิ รองเท้าแก้ว ตะเกียงวิเศษ พรมเหาะได้ หรือเสื้อคลุมล่องหนเป็นต้น คำอธิบายภายในหนังสืออธิบายว่า พ่อมดแม่มดไม่รู้ว่ามีจริงไหม แต่ถ้ามีจริงก็หายสาบสูญไปนานแล้ว และช่างทำวัตถุวิเศษคนสุดท้ายก็ถูกฆ่าตายไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แล้วด้วย
หนังสือสำหรับเด็ก 18- เท่านั้น
เนื้อเรื่องของร้านเวทมนตร์แบตติบาเลโนไม่มีความซับซ้อน เด็กอ่านง่าย ผู้ใหญ่อ่านดี มีความสนุกกับของเล่นเวทมนตร์ต่าง ๆ แม้จะไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่น ๆ นัก แต่มันก็มีส่วนผสมของความเป็นเทพนิยายที่ลงตัวเลยทีเดียว
ในความจริงแล้ว ขอบเขตของเรื่องนี้ผมคิดว่าใหญ่มากเสียด้วยซ้ำ (สเกลเดียวกับยูลิสซิส มัวร์เลย ทั้งสองเรื่องนี้ยังมีส่วนเกี่ยวดองเล็ก ๆ ด้วย) แต่ผู้เขียนกลับเลือกนำเสนอมุมมองเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแอปเปิ้ลครอสเพียงเท่านั้น
ภาพประกอบสุดอลังการ
ผมชอบภาพประกอบของหนังสือเล่มนี้มาก
เริ่มต้นเปิดเรื่องมาจะมีแผนที่ของหมู่บ้านแอปเปิ้ลครอสเขียนไว้อยู่ และในทุกบทที่มีวัตถุวิเศษปรากฏก็จะมีภาพประกอบขึ้นหน้าบทถัดไปเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับวัตถุวิเศษนั้น ซึ่งตัดออกมาจากหน้าหนึ่งของสารานุกรมวัตถุวิเศษของตระกูลลิลีนั่นเอง
สำหรับใครที่ชอบนิยายแฟนตาซีที่มีเนื้อเรื่องเรียบง่าย แต่ผสมกลิ่นอายของการผจญภัยอันแสนยิ่งใหญ่ไว้ ผมคิดว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้ แม้ว่าการผจญภัยทั้งหมดจะดำรงอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่กลับสร้างเรื่องได้น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดเรื่องยูลิสซิส มัวร์ หรือเซนจูรี่ก็ตาม
ปล. นิยายเรื่องนี้มี 4 เล่มจบ