เลือดชั่ว

ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2003 เทราโนสกลายเป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยวิสัยทัศน์มุ่งปฏิวัติเทคโนโลยีการเจาะเลือดวิเคราะห์โรคที่ทางบริษัทประกาศกร้าวว่า ด้วยเทคโนโนยีของเทราโนส ต่อไปนี้จะไม่มีการใช้เข็มฉีดยาดูดเลือดเป็นหลอดๆ อีกแล้ว แต่จะใช้แค่เลือดปลายนิ้วเพียงหยดเดียว แถมการตรวจวิเคราะห์ผลเลือดจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ที่บ้าน ไม่ใช่อำนาจหนึ่งเดียวของผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานทางการแพทย์ต่างๆ อีกต่อไป

วิสัยทัศน์ดังกล่าวของเอลิซาเบท โฮมส์ หญิงสาวผู้ก่อตั้งเทราโนสขึ้นในวัยเพียง 19 ปี สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก นี่ไม่ใช่เพียงการปฏิวัติเทคโนโลยีทางการแพทย์แต่ยังหมายถึงช่องทางทำกำไรมหาศาล เงินลงทุนมากมายหลั่งไหลเข้าสู่เทราโนสจนกลายเป็นบริษัทเกิดใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่า 165 ล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปี และพอ 10 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 2013 เมื่อคำว่า “ยูนิคอร์น” ถูกนำมาใช้เรียกบริษัทสตาร์ตอัปที่มูลค่ากิจการเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ เทราโนสก็กลายเป็นหนึ่งในยูนิคอร์นแห่งซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์กลางนวัตกรรมและการพัฒนาไฮเทคชั้นนำของโลก

แต่แล้ว เพียง 2 ปีต่อมา ช่วงปลายปี ค.ศ. 2015 จังหวะก้าวของยูนิคอร์นแห่งการปฏิวัติวงการสุขภาพตัวนี้ก็มีอันต้องสะดุด เมื่อหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เริ่มตีพิมพ์ซีรีส์บทความเชิงสืบสวนสอบสวนที่เปิดเผยถึงความไม่ชอบมาพากลในการพัฒนาเทคโนโลยีของเทราโนส ปฏิบัติการหักเขายูนิคอร์นครั้งนี้หนักแน่นจนแม้แต่รูเพิร์ต เมอร์ด็อก — เจ้าพ่อสื่อผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของบริษัทแม่ของ The Wall Street Journal ทั้งยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่สุดของเทราโนสด้วยเงินลงทุน 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ — ยังไม่ขัดขวาง และเหล่าความจริงที่พรั่งพรูผ่านการเปิดโปงนี้ก็นำไปสู่การฟ้องร้องบริษัทอย่างยกใหญ่ทั้งในข้อหาหลอกลวงนักลงทุนและเจ้าหน้าที่รัฐ

นี่คือผลงานที่นิตยสาร Time จัดให้เป็นหนึ่งในหนังสือสารคดีที่สุดแห่งทศวรรษ 2020!!